บทความ
การศึกษาดนตรีสำหรับเด็กปฐมวัย
Early Childhood Music Education
แนวคิดด้านการจัดการศึกษาปฐมวัย
ระบบแนวคิดพื้นฐานของการศึกษาก่อนวัยเรียนในอเมริกามีรากฐานมาจากการปฏิรูปทางศาสนา
ปรัชญา การเมือง อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากยุโรปในศตวรรษที่ 17 และ 18
ที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแนวคิดใหม่ทางการศึกษาโดยมีความเชื่อว่าเด็กเล็กสามารถได้รับประโยชน์จากการศึกษาที่เกิดขึ้นภายนอกบ้านและต้องการการได้รับการศึกษาที่แตกต่างไปจากเด็กโต
มาเรีย มอนเตสซอรี่ (Maria Montessori) (1870-1952)
นักมนุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโรม ประเทศอิตาลี
ให้ควำมสคัญกับการศึกษาด้านการสัมผัสซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาสติปัญญาให้ความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างบ้านและโรงเรียน
และเชื่อว่างานใด ๆ ก็ตามล้วนมีลำดับขั้นตอนที่สามารถแบ่งเป็นขั้นย่อย ๆ ได้
ด้วยกระบวนการนี้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
ระบบการสอนนี้พยายามสร้างให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ และมีพัฒนาการ
ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์สังคม และสติปัญญา
โดยให้เสรีภาพกับเด็กได้เลือกทำกิจกรรมตามความสนใจของตนเอง
ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ได้สังเกต ปฏิบัติ และฝึกประสบการณ์ชีวิต
จากแนวคิดทางการศึกษาปฐมวัยของนักการศึกษาที่สำคัญดังกล่าว
พบว่าหลักการจัดการศึกษาปฐมวัย ประกอบด้วย 1) การพัฒนาเด็กอย่างมีองค์รวม
คือด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา 2) การเรียนรู้ผ่านทางการ
ทำกิจกรรม การเล่น โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ตรง ให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตนเอง3)
การเน้นเด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้โดยเปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกทำกิจกรรมและออกความคิดเห็น
และ 4) ครูทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย ผู้จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก
แนวคิดนี้เหล่านี้ได้กระจายออกไปและถูกนำไปพัฒนาต่อโดยนักการศึกษานักวิจัยและนักปรัชญามากมาย
ความสำคัญของการจัดการศึกษาดนตรีสำหรับเด็กปฐมวัย
ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราทุกคน (Pitts, 2012;
UNESCO, 2012)ทั้งแบบเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ และกึ่งทางการ
ผ่านทางสื่อมีเดียต่าง ๆทั้ง YouTube หรือสื่ออิเลคโทรนิคอื่น
ๆ เด็กควรได้รับโอกาสได้มีส่วนร่วมและประสบการณ์ทางดนตรีผ่านทางกิจกรรมที่หลากหลายนอกเหนือจากการเล่นเครื่องดนตรี
หรือการเรียนดนตรีในชั้นเรียนเท่านั้น
เด็กควรมีประสบการณ์ในการร้องการเต้นทั้งแบบเดี่ยว และการเต้นร่วมกับผู้อื่น
กิจกรรมดนตรีมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาของเด็กปฐมวัย
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เนื่องจากการเรียนรู้ที่สำคัญมักเกิดขึ้นในช่วงวัยนี้การเรียนรู้อย่างมีความหมายจะเกิดขึ้นได้ต้องมีส่วนประกอบสำคัญ
3 ด้านคือ1) การทำซ้ำ 2) การทำอย่างสม่ำเสมอ และ 3) การมีส่วนร่วม (engagement)การเล่นดนตรี (musical
play) จะสร้างให้เด็กมีพลังในการเชื่อมโยงการเรียนรู้ของพวกเขา
ประสบการณ์ทางดนตรีของเด็ก
จะส่งผลต่อความเข้าใจในสิ่งแวดล้อมรอบตัวของเด็กมากขึ้น การฟัง การร้องเพลง
และการเคลื่อนไหว จะสร้างให้เกิดความสัมพันธ์และการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรง
ต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อนร่วมชั้นเรียนสร้างความสมดุลทางอารมณ์
ช่วยผ่อนคลายความเครียด บทเพลง กิจกรรมดนตรีและเกมส์ต่างๆ
ส่งผลเชิงบวกต่อระดับอารมณ์ของพวกเขาอีกด้วย
นอกจากนี้การศึกษาดนตรียังพัฒนาความฉลาดของเด็ก การเรียนรู้เนื้อเพลง ท านองเพลง
และการตีความเพลงจะช่วยพัฒนาความจำของเด็ก
สรุป
การจัดการศึกษาดนตรีสำหรับเด็กปฐมวัยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนซึ่งนอกเหนือจากการสอนทักษะดนตรีแล้วนั้น
ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องต้องมีความรู้ ความสามารถ
และความเข้าใจในปรัชญา แนวทาง และหลักการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยด้วย
การเข้าใจสภาพ และปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมมือกันด้วยความรู้ ความเข้าใจ
และความสามารถในการจัดการและพัฒนาการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยอย่างถูกต้องร่วมกันของทุกภาคส่วน
จะทำให้การจัดการศึกษาดนตรีสำหรับเด็กปฐมวัยประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น
อ้างอิง http://ejs.bsru.ac.th/musicjournal/uploads/files/journals/journal1_1/02_Article2.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น